พจนานุกรม Qiūqiū

ความหมายของคำว่า blush ในภาษาไทย รากศัพท์ คำอุปสรรค การแปล คำพ้อง คำตรงข้าม วลี และตัวอย่างประโยค

🎧 การออกเสียง

🔈การออกเสียงแบบอเมริกัน: /blʌʃ/

🔈การออกเสียงแบบอังกฤษ: /blʌʃ/

📖 ความหมายโดยละเอียด

  • คำกริยา (v.):กลับมีสีหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงเนื่องจากความอายหรืออับอาย
        ตัวอย่าง: She blushed when he complimented her. (เธอกลับมีสีหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงเมื่อเขาชมเธอ.)
  • คำนาม (n.):การกลับมีสีหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดง
        ตัวอย่าง: Her blush was visible even in the dim light. (การกลับมีสีหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงของเธอยังมองเห็นได้ในแสงสีม่วง.)

🌱 รากศัพท์และคำนำหน้า

รากศัพท์: มาจากภาษาละติน 'blussare' ซึ่งหมายถึง 'กลับมีสีหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดง'

💡 การจำด้วยการเชื่อมโยง

คิดถึงการที่คนกลับมีสีหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงเมื่อรู้สึกอาย

📜 การจำคำพ้องความหมายและคำตรงข้าม

คำพ้องความหมาย:

  • คำกริยา: redden, flush
  • คำนาม: redness, flush

คำตรงข้าม:

  • คำกริยา: pale, blanch
  • คำนาม: pallor, paleness

✍️ การจำด้วยวลี

  • blush with pleasure (กลับมีสีหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงจากความสุข)
  • blush of shame (กลับมีสีหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงจากความอาย)

📝 การจำด้วยตัวอย่างประโยค

  • คำกริยา: He blushed as he accepted the award. (เขากลับมีสีหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงเมื่อรับรางวัล.)
  • คำนาม: The blush on her cheeks was charming. (การกลับมีสีหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงบนแก้มของเธอน่ารักดี.)

📚 การจำด้วยเรื่องราว

เรื่องราวภาษาอังกฤษ:

Once upon a time, there was a shy girl who always blushed whenever someone talked to her. One day, she met a kind boy who made her feel comfortable, and she stopped blushing. From that day on, she learned that not everyone makes her feel embarrassed.

เรื่องราวภาษาไทย:

ครั้งหนึ่งเมื่อก่อน มีหญิงสาวขี้อายคนหนึ่งที่กลับมีสีหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงทุกครั้งที่มีคนคุยกับเธอ วันหนึ่งเธอได้พบเด็กชายที่ดีใจที่ทำให้เธอรู้สึกสบายใจ และเธอก็หยุดกลับมีสีหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดง ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา เธอได้เรียนรู้ว่าไม่ใช่ทุกคนที่ทำให้เธอรู้สึกอาย